รู้ยัง? อะไรคือ C-Bet
ไม่รู้จักเล่นผิดเงินหมดตัวได้!!
C-Bet หรือ Continuation Bet คือการ Bet ต่อเนื่อง เช่น การ Raise ช่วง Pre-Flop และยัง Bet ต่อในรอบ Flop เท่ากับการประกาศเป็นนัยว่า ผู้เล่นกำลังพอใจกับมือของตัวเองและอยากจะลงเงินมากขึ้น นับเป็นการใช้ประโยชน์จากการเป็น Aggressor ตั้งแต่แรกและรุกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้กลยุทธ์นี้ ผู้ต่อสู้มักจะ Fold นับเป็นวิธีหนึ่งที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพ เพราะผู้เล่นโป๊กเกอร์ส่วนใหญ่มักพลาด Flop
หากคุณ C-Bet และคู่แข่ง Flat-Call แสดงว่าพวกเขายังไม่มีไอเดียอะไรกับไพ่ในมือของเขา เท่ากับคุณเป็น Aggressor และมันมีความหมายว่ามือของคุณน่าจะเหนือกว่าพวกเขา แต่หากพวกเขา Check และคุณ Bet อาจคิดได้ว่าบนกระดานไม่มีไพ่ที่จะทำให้มือเขาดีขึ้น ส่วนมากแล้วพวกเขาจะจบด้วย Fold
จะ C-Bet หรือไม่ดีนะ
คุณเคยสังเกตไหม ว่าเงินส่วนใหญ่ใน Pot บางทีก็เป็น Dead Money (เงินของผู้เล่นที่ไม่ได้ Active อยู่) ซึ่งมาจากการ Call ที่ปวกเปียกของผู้เล่นช่วง Pre-Flop และผู้เล่นเหล่านั้นก็ Fold ในรอบ Flop เมื่อต้องเผชิญกับการรุกอย่างต่อเนื่องของผู้เล่นคนอื่นและส่วนมากจะเป็นผู้ที่ใช้วิธี C-Bet ในอัตราที่สูงเลยทีเดียว
แต่อัตราที่สูง ไม่ได้แปลว่า ทุกครั้ง!
เพราะถ้าคู่แข่งรู้ว่าคุณเป็นพวกชอบใช้ C-Bet ทุกครั้ง คุณโดนจับได้และวิธีนี้จะไม่ได้ผลอีกต่อไป ดังนั้น อย่าใช้วิธีเดิมๆตลอดเวลา หากคุณต้องการ Dead Money จากผู้เล่นคนอื่นๆ คุณต้องเข้าใจก่อนว่ามีเกมไหนที่ควรใช้และจะได้ผลดี
สถานการณ์ไหนเหมาะสมกับ C-Bet?
Flop ที่เหมาะที่สุดในการใช้ C-Bet คือ เมื่อใช้แล้วจะช่วยเกมของคุณ แน่นอนว่าเมื่อคุณ Raise ก่อน Flop เปิด คู่แข่งจะต้องคิดว่าคุณมีมือไพ่ที่ค่อนข้างดี และหาก Flop ออกมาเป็น Big Cards อีก เช่น Aces หรือ Kings จะช่วยให้การ Bet ต่อเนื่องของคุณดูน่าเกรงขามมาก
อีกกรณีคือ Flop ที่ดูแล้วไม่ได้ช่วยให้คู่แข่งมีมือที่พัฒนาขึ้น ก็เหมาะสมอย่างยิ่งในการทำ C-Bet ถ้าคุณลองคิดว่ามือประมาณไหนที่คู่แข่งน่าจะ Call ช่วง Pre-Flop และflop เปิดเป็น T♥ 3♠ 5♣ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นไพ่ที่ดีสำหรับเขามากนัก ในกรณีนี้ หากคุณ C-Bet คู่แข่งน่าจะเต็มใจ Fold อย่างแน่นอน
ควรจะ C-Bet มากน้อยแค่ไหน?
เนื่องจาก C-Bet นับว่าเป็น Small Bluff คุณควรต้องลงอย่างประหยัด ถึงแม้ว่าคุณจะมีเป้าหมายให้คู่แข่ง Fold แต่คุณก็คงไม่อยากเสี่ยงโดยไม่จำเป็นในกรณีที่ถูก Call ด้วย เราแนะนำว่าทั้ง C-Bet และ Value Bet ของคุณควรจะใกล้เคียงกัน เพราะถ้าคุณ Bet น้อยกว่าหรือมากกว่า C-Bet อาจจะโดนคู่แข่งเก่งๆสังเกตเห็นได้ ดังนั้นคุณควรจะ Bet ในจำนวนที่มากพอจะทำให้คุณสำเร็จเป้าหมาย โดยไม่ให้มีพิรุธมากเกินไป
มาตรฐานที่ใช้ได้ก็คือ 2ใน3 ของ Pot ซึ่งเป็นจำนวนที่ประหยัด แต่ก็เพียงพอที่จะมีโอกาสได้ครอบ Dead Money บนโต๊ะ
ข้อดีของ C-Bet ที่เห็นได้ชัดคือคุณจะได้ประโยชน์จากการเป็นผู้เริ่ม Raise ก่อน Flop และยัง Bet ต่อเนื่อง คุณจะมีโอกาสชนะสูง แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรใช้วิธีนี้ทุกครั้งที่เล่นจนกลายเป็นเรื่องปกติของคุณ คนอื่นๆจะรู้และคุณจะกลายเป็นผู้เล่นที่ถูกเดาทางได้ง่าย
แล้วเมื่อไหรไม่ควร C-Bet
ถ้า Flop ดูจะเข้าทางและช่วยพัฒนามือของคู่แข่ง อาจเป็นเหตุผลให้คู่แข่ง Call คุณควรข้ามการทำ C-Bet ไปก่อน เพราะการ Bet ต่อเนื่องเรื่อยๆในขณะที่คู่แข่งยังคง Call อาจจะทำให้คุณเสียเงินเปล่า ถึงแม้คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่ากระดานแบบไหนจะช่วยหรือไม่ช่วยคู่แข่งของคุณ นี่แหละเกมแห่งการเรียนรู้ที่จะคาดเดา คุณต้องคิดว่าไพ่ประมาณไหนที่ทำให้คู่แข่งคุณ Call ไปเมื่อครู่ และถ้ามีแนวโน้มว่าสิ่งนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นอีกสูง ให้คุณหยุด Bet ก่อน
สมมุติถ้า Flop เปิดมาและเต็มไปด้วย Draw เช่น 8♥ 7♥ 9♦ คุณควร Check มากกว่าจะ Bet เพราะมีโอกาสสูงที่คู่แข่งน่าจะ Call หรืออาจจะ Raise ด้วยซ้ำ ดังนั้นเราแนะนำให้คุณ Check ก่อนดีกว่า
และอีกข้อ คือถ้าในเกมของคุณมีคู่แข่งหลายคน โอกาสที่คุณจะทำ C-Bet ควรจะน้อยลงหรือไม่ทำจะดีกว่า อย่าลืมว่าการ C-Bet คือการพยายามเก็บ Dead Money จากผู้อื่น แต่ถ้าในเกมยิ่งมีคนมาก โอกาสที่คนเหล่านั้นจะต้องการเห็นไพ่ในรอบ Flop และ Turn ยิ่งมากไปด้วย หมายความว่าโอกาสที่จะมีคนนั่งอยู่กับคุณจนช่วงท้ายของเกมยิ่งสูง
ไม่ควร C-Bet หากมีผู้ Call หลายคน
ถ้าคุณ Raise Pre-Flop และมีผู้เล่นคนอื่น Call ตามมาหลายคน การจะ Bet ต่อเนื่องของคุณดูท่าจะไม่เวิรค์แล้ว เพราะว่ายิ่งมีผู้เล่นมาก โอกาสที่คุณจะถูก Call จากคนใดคนหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งคนก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
การ Bet ต่อเนื่องก็เหมือนกับ Mini-Bluff โดยใช้ Fold Equity ที่คุณได้จากการเป็นผู้ Raise มากก่อนเปิด Flop หากผู้เล่นมากขึ้น Fold Equity ก็จะน้อยลงและคุณจะถูก Call บ่อยขึ้น หากเป็นสถานการณ์นั้น แนะนำให้คุณ Bet ด้วยการที่มีมือ Made Hand มากกว่าที่จะ Bet เพื่อ Bluff
ไม่ควร C-Bet กับ Calling-Station
สุภาษิตว่าไว้ คุณไม่สามารถ Bluff ผู้เล่นประเภท Calling-Station ได้หรอก แต่ไม่ได้แปลว่าเราแนะนำให้ยอมแพ้นะ คุณต้องลองพิจารณาคู่แข่งและเลือกวิธีที่เหมาะสมในการเล่น
หากคุณกำลังเล่นกับcalling-Station ที่ชอบ Call เบาๆในช่วง Flop และ Fold ให้กับคู่แข่งเมื่อเจอ Bet หนักในรอบ Turn คุณสามารถใช้วิธี Bet ต่อเนื่องกับคนเหล่านี้ได้
พวก Calling-Station มักจะชอบ Call ก็ปล่อยให้เขา Call กันไป แต่คุณจะต้องใช้มือไพ่ที่ดีผสมกับกับ Bluff มากกว่าการใช้การ Bet ต่อเนื่องอย่างเดียว
ไม่ควร C-Bet บน Draw-Y Board
ถ้าบนกระดานเป็น Drawy Board เช่น7♥ 8♥ 5♦ ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสสูงที่คู่แข่งของคุณจะพัฒนามือได้ คุณจึงไม่ควรทำ C-Bet ในกระดานลักษณะนี้ จะเป็นการเสียเงินโดยไม่คุ้มเสี่ยงเปล่าๆ
ไม่ควร C-Bet หากคุณอยู่ในตำแหน่ง Out Of Position
เป็นธรรมดาของโป๊กเกอร์ หากคุณอยู่ในตำแหน่ง Out Of Position สิ่งต่างๆจะยากขึ้นเสมอ หากคุณมีนิสัยชอบ Bet ต่อเนื่องและเกิดยอมแพ้ขึ้นมาเมื่อโดน Call คู่แข่งก็จะจับพิรุธคุณได้ ต่อไปถึงคุณจะ Raise ในตำแหน่ง In Position เขาก็อาจจะ Call และ Call จนอาจจะแย่ง Pot ไปจากคุณ
หากคุณ Raise ช่วง Pre-Flop แล้วถูกคู่แข่งที่อยู่ In Position Call คุณควร C-Bet ให้น้อยลง เดิมทีก็ยากอยู่แล้วที่จะเล่นในตำแหน่ง Out Of Position และจะยากขึ้นไปอีก ถ้าต้องเล่นกับคู่แข่งที่รู้ทัน
แต่หากคุณอยู่ในตำแหน่ง In Position เกมอาจจะง่ายขึ้นเพราะคุณสามารถคาดเดามือคู่แข่งได้ดีขึ้นมาหน่อย คือคุณจะสามารถทำ C-Bet ได้มีประสิทธิภาพกว่า
สรุปว่า สิ่งสำคัญที่เป็นสัญญานบอกว่าคุณควรทำ C-Bet หรือไม่ก็คือ Fold Equity (โอกาสที่คู่แข่งจะหมอบ) ถ้าคุณมี Fold Equity ยิ่งสูง โอกาสที่คู่แข่งจะ Fold จากการทำ C-Bet ของคุณยิ่งเพิ่มขึ้น และถ้าคุณสูญเสียหรือมี Fold Equity น้อย คุณก็ไม่ควรทำ จำไว้ว่าไม่มีวิธีไหนจะได้ผลตลอดในทุกๆเกม ฉะนั้นคุณควรลองใช้เวลาวิเคราะห์สถานการณ์ ไพ่บนกระดาน และ Range ของคู่แข่งดูก่อน หากทุกสัญญานบ่งบอกว่าควร C-Bet ก็ลุยเลย